เป็นนิมิตที่ดี

วันที่ 02 ตค. พ.ศ.2566

 

2-10-66_5b.png

เป็นนิมิตที่ดี

บันทึก คุณอุมา ชมภูแตง
                    วันนั้นเป็นวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ซึ่งเป็นวันสำคัญวันหนึ่งทางพุทธศาสนา คือวันมาฆบูชา และในวันนี้ ณ วัดพระธรรมกาย ตำบลคลองสาม จังหวัดปทุมธานี ได้มีพิธีทางพุทธศาสนาซึ่งได้จัดขึ้นเป็นกรณีพิเศษ โดยจะมีการทำบุญใหญ่ตลอดวัน ตั้งแต่ตอนเช้าถึงประมาณ ๓ โมงเย็น และจะมีพิธีเวียนเทียนอีกครั้งโดยเริ่มพิธีตอน๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป

 

                    เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้ร่วมบุญใหญ่ในวันมาฆบูชา ของวัดพระธรรมกายนี้ ความจริงแล้วข้าพเจ้าเริ่มมาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเมื่อวันวิสาขบูชาปี ๒๕๒๖ ตั้งแต่นั้นมาทำให้ข้าพเจ้าได้ประสบสิ่งที่ดีงามในชีวิตขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำพิธีตั้งแต่ตอนเช้าเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้ากลับไปพักผ่อนที่บ้านและกลับมาที่วัดใหม่ประมาณเกือบ ๖โมงเย็น พร้อมด้วยคณะซึ่งมี พี่วัน (คุณวันทนา บุญสูง) น้าจี้ (คุณสุจิตรา เศรษฐภักดี) และเพื่อนๆพีวันอีก ๓-๔ คน
 

                    ...เมื่อมาถึงวัดขณะนั้นผู้คนต่างนั่งเข้าที่หน้าโบสถ์ ซึ่งมากมายเลยไปถึงสนามหญ้าประมาณครึ่งทางจากประตูเข้าวัดถึงโบสถ์ ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังหาที่นั่งอยู่นั้น ข้าพเจ้าได้มองตรงไปยังประตูโบสถ์มองเห็นว่ามีพระประธานซึ่งประทับอยู่ด้านในโบสถ์และด้านหน้านั้นมีเงาเป็น “พระพุทธรูปยืน” ขนาดเท่าคนจริงซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาใกล้ค่ำ และยังไม่เริ่มทำพิธีใดๆ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่คิดอะไร จนกระทั่งหาที่นั่งได้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็มีการทำพิธี โดยหลวงพ่อธัมมะชโย ท่านจะนำนั่งธรรมะ จนกว่าดวงจันทร์จะขึ้นเต็มดวง ข้าพเจ้าก็ปฏิบัติตามพิธี จนกระทั่งจะเริ่มเวียนเทียน พวกเราต่างก็ยืนขึ้นเพื่อจะหาที่เข้าเวียนเทียน แต่พวกเราอยู่ไกลเขตที่เวียนเทียน จึงไม่สามารถร่วมในเขตเวียนเทียนได้ ข้าพเจ้าจึงยืนมองตรงไปที่โบสถ์อีกครั้ง ก็เห็นเงาพระพุทธรูปปางยืนนั้นอีก ทั้งที่ยืนอยู่คนละที่ ตั้งแต่เห็นตอนแรก แต่ข้าพเจ้าก็คิดว่า หลวงพ่อท่านนำพระพุทธรูปยืนองค์นี้มาทำพิธีด้วย และก็คิดจะถามน้า (คุณสุจิตรา) ซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าว่า “ปีนี้หลวงพ่อท่านหล่อพระเป็นพระพุทธรูปยืนหรือเปล่า?” (เพราะได้ข่าวว่าท่านหล่อพระก่อนจะมีพิธีในวันมาฆบูชา) ในขณะที่คิดเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็ยังต้องตรงไปที่เงาพระพุทธรูปยืนนั้นอยู่ และจะเอ่ยปากถามน้าจี้ ก็เห็นหลวงพ่อธัมมะชโย ท่านเดินออกจากเงาพระพุทธรูปองค์นั้น และเงาก็หายไป ข้าพเจ้าแน่ใจว่าที่เห็นนั้นไม่ได้ตาฝาดหรือคิดขึ้นเอง เพราะเงาที่ข้าพเจ้าเห็นนั้น เป็นลักษณะเดียวกันทั้งสองครั้ง และเห็นคนละเวลา และต่างสถานที่ และเมื่อเสร็จพิธีในวันนั้น ข้าพเจ้าและคณะก็กลับบ้าน และได้เล่าเรื่องนี้ให้พี่วันฟัง พี่วันบอกว่านั่นแหละเป็นนิมิตที่ดีแล้วเพราะน้อยคนจะมีโอกาสได้เห็นเช่นนี้ วันต่อมาข้าพเจ้าได้กราบเรียนหลวงพ่อธัมมะชโย และได้ถามท่านว่า ท่านนำพระพุทธรูปยืนมาทำพิธีในวันมาฆบูชาด้วยหรือเปล่า ท่านบอกว่า ไม่มีพระพุทธรูปยืนเลย ยิ่งทำให้ข้าพเจ้ามีความปีติ ที่ได้ประสบกับตนเอง และยิ่งเลื่อมใสในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและหลวงพ่อมาก ซึ่งทำให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น
 

อุมา ชมภูแดง
ผู้จัดการฝ่ายการเงิน
บริษัท โซน่าโปรโมชั่น จำกัด

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0012461980183919 Mins